วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552

อะไร สำคัญกว่ากัน

วันนี้ได้รับ Forward mail จากเพื่อนศิษย์เก่ามหา'ลัย ซาบซึ้งและโดนใจ อิอิ แม้แต่ตัวเราเอง
อะไรสำคัญกว่ากัน
ณ.ฟาร์มแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสี่ขวบ คุณพ่อของเธอมีรถบรรทุกคันหนึ่งซึ่งคุณพ่อรักมาก
เนื่องจากแต่งซิ่งซะดูสดใสใหม่เอี่ยมอยู่เสมอ ถูกใจโก๋แก่ ว่างั้นเถอะ อยู่มาวันหนึ่ง เด็กหญิงเอาของแข็งไปขีดรถเล่น จนรถเป็นรอยขูดขีดไปทั่วด้วยความโมโหสุดขีด ผู้เป็นพ่อใช้เส้นลวดมัดข้อมือของเด็กหญิงแล้วจับเธอมัดไว้ในโรงรถเพื่อเป็นการทำโทษ และกว่าเขาจะนึกขึ้นได้ ก็เป็นเวลาที่ร่วงเลยไปเกือบ4 ชั่วโมงแล้ว ตอนที่เขากลับเข้าไปในโรงรถอีกครั้ง มือของเด็กถูกรัดจนเลือดไม่ไหลเวียน จนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลแพทย์วินิจฉัยว่า ต้องตัดมือทั้งสองข้างทิ้ง เพื่อรักษาชีวิตไว้ เนื่องจากเซลล์ส่วนที่เป็นมือได้ตายไปหมดแล้ว เด็กหญิงจึงต้องสูญเสียมือทั้งสองข้างไป โดยที่เธอก็ยังไม่รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของการถูกทำโทษในครั้งนี้เลย มันยิ่งทำให้ผู้เป็นพ่อต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับความรู้สึกผิดอยู่ในใจตลอดเวลา
ครึ่งปีผ่านไป พ่อของเด็กนำรถไปเคาะพ่นทาสีใหม่ ก็ได้รถที่มีสีแสบจ้าบ ประดุจรถใหม่กลับมาอีกครั้ง พอถึงบ้าน เด็กหญิงเห็นรถทาสีใหม่ พูดขึ้นด้วยความไร้เดียงสาว่า “คุณพ่อคะ รถคุณพ่อสวยจังเลย เหมือนรถคันใหม่เลย” ในขณะเดียวกัน ก็ได้ยื่นแขนไร้มือคู่นั้นออกมา แล้วถามพ่อว่า “แล้วเมื่อไหร่คุณพ่อถึงจะคืนมือให้หนูละค๊ะ” คุณทราบไหมว่า เมื่อคุณพ่อคนนั้นได้ยินดังนั้น เขาทำอย่างไร...เขาดึงปืนออกมา แล้วยิงตัวตายต่อหน้าลูกสาวของเขา...ผู้คนมากมายในโลกนี้ ยังแยกไม่ออกว่าสิ่งใดเป็นสิ่งสำคัญกว่าในชีวิต มัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบเพราะนึกว่า นั่นคือสิ่งที่สำคัญกว่า...
คุณจะเห็นคนบางคนอุตส่าห์ไปช่วยมูลนิธิต่างๆกวาดถนน แต่ไม่ยอมแม้แต่จะกวาดบ้านของตัวเอง...
คนบางคนบริจาคเงินมากมายไปสร้างวัด แต่กับญาติพี่น้องตัวเองกลับเหนียวหนืดยิ่งกว่าอะไร...
คนบางคนพูดจาไพเราะอ่อนหวานกับคนรอบข้าง แต่กับคนในบ้านกลับตะคอกฉุนเฉียว...
นี่แสดงว่า คุณพ่อคนนั้น ไม่รู้ว่าอะไรสำคัญกว่า ระหว่างรถกับลูกของตัวเอง...
ที่น่าเศร้ายิ่งกว่านั้นคือ ในโลกนี้ล้วนเต็มด้วยเรื่องแบบนี้ และมีให้เห็นเป็นประจำ แม้แต่ท่ามกลางเธอและฉันนี่แหละ...

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

ความตั้งใจจริงของคุณพ่อและคุณแม่อัสสัมชัญห้อง 8


Blog นี้เปิดมาก็นานพอควร คุณพ่อคุณแม่ของคุณลูก (ขา) อาจจะยังไม่สะดวกที่จะโพสหรือเขียนโต้ตอบ และแสดงความคิดเห็น (สมดังตั้งใจไว้ แต่อย่าให้รอนาน นะ...จะบอกให้) ผู้ที่จะเขียนข้อความทุกๆคน สามารถคลิกเข้าไปได้ที่ "ความคิดเห็น" ที่อยู่บรรทัดท้ายสุดของบทความนั้นๆ เมื่อคลิกเข้าไป จะมีข้อคิดเห็นของและคนปรากฎขึ้น และจะมีช่อง "แสดงความคิดเห็น" อยู่ท้ายสุดของหน้านั้น (ถ้าไม่มีข้อคิดเห็นเลยในบทความนั้นๆ ช่อง "แสดงความคิดเห็น" ก็จะปรากฎทันที) คุณพ่อหรือคุณแม่ของคุณลูกขา ก็สามารถพิมพ์ข้อความได้เลย เมื่อเสร็จแล้วให้ คลิกที่ "ส่งความคิดเห็น" หรือจะดูตัวอย่างก่อน ก็คลิกที่ "แสดงตัวอย่าง" เมื่อพอใจแล้ว..ก็...คลิกที่ "ส่งความคิดเห็น" วันนี้ Bye Bye

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

ทำอย่างไร? จะประสบความสำเร็จในชีวิต


ทำอย่างไร? จะประสบความสำเร็จในชีวิต
วันนี้ เรามาเรียนรู้ ด้วย การเทียบเคียง (Bench Mark) ประสบการณ์และตัวอย่างของกลุ่มคน (มักจะเป็นกลุ่มเล็กๆๆๆ) ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตการงานและครอบครัวกัน
ประสบการณ์ พบว่ากลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มีการวางเป้าหมายหรือวาดอนาคตหรือมีความฝันของตนเองไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่วัยเด็กๆ และเขาเหล่านั้น ก็สร้างขีดความสามารถและความพร้อมของตัวเองให้สามารถไปถึงหรือสร้างโอกาสให้กับตนเอง เพื่อให้ได้เป็นในสิ่งที่ตนเองฝันไว้
ตัวอย่างหรือกรณีศึกษา
1. ผู้เขียนจำไม่ได้ว่า ประธานาธิบดีคลินตันหรือ....ขณะเป็นเด็ก ได้มีโอกาสพบกับประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล John F Kenedy (JFK) และเด็กเล็กๆคนนั้น ก็พูดออกมาเลยว่า "โตขึ้นมา ผมจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ"
2. ความฝันของแม่หม้ายสามีเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย แม่หม้ายคนนี้มีอาชีพขายกล้วยแขก (กล้วยทอด) ตามงานวัดหรือหนังกลางแปลง (สมัยก่อน เวลามีงานวัด งานโรงเรียนจะมีหนังฉายให้ดูฟรี ก็ฉายกันในสนามนั่นแหละ) เธอผู้นี้จะต้องหาบของไปขาย (ด้านหนึ่งเป็นของที่จะขายอีกด้านหนึ่งก็มีลูกเล็กที่ยังเดินไม่ได้นอนอยู่) มืออีกข้างก็จูงลูกคนรอง แล้วยังมีลูกคนโตเดินตามหลังอีกคน ถ้าเหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อๆไป น้องๆคงจินตนาการภาพได้ แต่ แม่หม้ายคนนี้ใฝ่ฝันที่จะให้ลูกๆ ได้รับการศึกษาที่ดีทุกๆคน เธอจึงต้องหาอาชีพใหม่ (ให้ได้) เธอมองเห็นอาชีพและได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับอาหลั่ยและชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์"ด้วยตนเอง" (ลองนึกภาพดู ผู้หญิงที่มีความรู้จบ ป.4 ต้องเลี้ยงลูก 3 คน แถมยังต้องกระเตงลูกไปขายกล้วยแขกตอนกลางคืน เพื่อเลี้ยงดูลูกๆ เธอเอาเวลามาจากไหน) เวลาผ่านไป แต่ไม่ได้โกหก ลูกชายคนโต จบวิศวฯ จุฬา อีกคนจบแพทย์ มช. ปัจจุบันเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (Specialist) แม่หม้ายคนนี้จึง เหมาะสมยิ่งที่ได้เป็น แม่ดีเด่นประจำปี.....(หลายปีแล้ว)
ผู้เขียน ได้เรียนรู้ว่า กลุ่มคนเหล่านั้น มีความฝันที่จะเป็น.....กลุ่มคนเหล่านั้น มีความมุ่งมั่น.....มีการวางแผนไปตามขั้นตอน....เพื่อให้เขา...ได้ในสิ่งที่เขาเหล่านั้น...ฝันจึงเป็นจริง
น้องๆ ทราบหรือไม่ว่า นักเรียนชั้นระดับ ม.1 จะต้องมีความฝันที่อยากจะเป็นอะไร..ได้แล้ว
ตัวอย่าง อาชีพ วิศวกร เรามาดูสิ่งที่วิศวกรที่จะประสบความสำเร็จ ต้อง คณิตศาสตร์ชั้นยอด ฟิสิกส์ เคมี ชั้นเยี่ยม ภาษาอังกฤษขั้นเทพ สิ่งที่ต้องเตรียมการ
1. แผนการเรียน ต้องเรียนคณิต-วิทย์ (โรงเรียนเริ่มแบ่งกลุ่มนักเรียนตั้งแต่ ม.1 ใช่หรือไม่ แต่ยังไม่สายเกิน)
2. วิชาแกนที่ต้องสอบมหาวิทยาลัย คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ภาษาอังกฤษ
3. ผลการเรียนต้องอยู่ในกลุ่มหัวกะทิของประเทศ ...เราอยู่อันดับไหนของประเทศ
4. มีความมุ่งมั่นและมั่นคง (ไม่ท้อถอย..เมื่อพบอุปสรรค...ไม่เรรวน...
5. เราต้องมีกลุ่มเพื่อนๆที่ดีและเรียนกันเป็นกลุ่ม (คบคนพาล...คบบัณฑิต...ผล)
6. โรงเรียนและครู ต้องมีคุณภาพ (โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จะมีนักเรียนชั้นแนวหน้ามารวมกันมากที่สุดในประเทศไทย)
วันนี้พอก่อน......

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

โพสเกี่ยวกับความรู้วิชาต่างๆ

แค่ชื่อหัวข้อก็คงรู้แล้วสินะครับ เพราะฉะนั้นควรโพสแต่ความรู้แต่ละวิชาเพื่อจะได้นำมาเเชร์กันด้วยนะครับ และขอให้พูดอย่างสุภาพด้วย